ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ตราซีพีผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ตราซีพี


นักศึกษาได้อะไรจากการศึกษาดูงานบริษัท ซีพีเอฟ(ประเทศไทย) จำกัด มหาชน นครราชสีมา 
      ในปี 2541 ซีพีเอฟได้เข้าซื้อบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมด้านการเลี้ยงสัตว์ และการแปรรูปเนื้อสัตว์ของเครือเจริญ โภคภัณฑ์ เข้ามาอยู่ภายใต้การบริหารงานของซีพีเอฟ โดยได้ดำเนินการเสร็จสมบูรณ์ในช่วงต้นปี 2542 ซีพีเอฟได้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็นบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน)พร้อมประกาศวิสัยทัศน์ความต้องการเป็น ครัวของโลก” (Kitchen of the World) ที่มีการดำเนินธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมครบวงจรเพื่อผลิตสินค้าเนื้อสัตว์ และสินค้าอาหารคุณภาพให้แก่ผู้บริโภคทั่วโลก หลังจากนั้น บริษัทได้มีการขยายธุรกิจไปลงทุนยังต่างประเทศ และในปี 2548 ได้เริ่มใช้ตราสินค้า กับสินค้าเนื้อสัตว์แปรรูปพื้นฐาน พร้อมกับ การเริ่มธุรกิจการผลิตสินค้าอาหารพร้อมรับประทานภายใต้ตราซีพีออกจำหน่ายในประเทศไทยและต่างประเทศ รวมถึงการขยายธุรกิจ ค้าปลีกสินค้าอาหารมากขึ้น โดย ณ ปัจจุบัน จุดจำหน่ายของบริษัทสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ธุรกิจห้าดาว ธุรกิจร้านค้า ปลีกซีพี เฟรชมาร์ท และธุรกิจร้านซีพี ฟู้ดมาร์เก็ต ด้วยวิสัยทัศน์ที่ต้องการก้าวขึ้นเป็น ครัวของโลก” (Kitchen of the World) โดยมีพันธกิจที่จะดำเนินธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม และอาหารแบบครบวงจร เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพในด้านคุณค่า รสชาติ และความปลอดภัย สามารถตรวจสอบ ย้อนกลับได้ และมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งมุ่งเน้นการเติบโตขององค์กรอย่างยั่งยืน

       ซีพีเอฟดำเนินธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมครบวงจร ซึ่งประกอบด้วย การผลิตอาหารสัตว์ การทำฟาร์มเลี้ยงสัตว์และการผลิต อาหาร ซึ่งได้แก่ การผลิตสินค้าเนื้อสัตว์กึ่งปรุงสุกและปรุงสุก และการผลิตผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทานภายใต้ ตรา ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดย ณ วันที่31 ธันวาคม 2554 ซีพีเอฟมีการประกอบกิจการโดยบริษัทย่อยในต่างประเทศใน อีก 9 ประเทศ ซึ่งได้แก่ ตุรกี รัสเซีย ลาว ไต้หวัน อังกฤษ มาเลเซีย อินเดีย จีน และฟิลิปปินส์รวมทั้งมีการส่งออกผลิตภัณฑ์สินค้า เนื้อสัตว์และอาหารกึ่งปรุงสุกและปรุงสุก รวมทั้งอาหารพร้อมรับประทานภายใต้ตรา ไปจำหน่ายต่างประเทศครอบคลุม 43 ประเทศ ทั่วโลก นอกจากนี้ ภายหลังจากการเข้าซื้อหุ้น CPP ซึ่งคาดว่าการดำเนินการแล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 1 ของปี 2555 ซีพีเอฟจะมีการ ประกอบกิจการโดยบริษัทย่อยในต่างประเทศเพิ่มขึ้นอีก 1 ประเทศ ได้แก่ เวียดนามซึ่งดำเนินธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายอาหารสัตว์ ธุรกิจเพาะพันธุ์สัตว์ และทำฟาร์มสัตว์บกและสัตว์น้ำ และธุรกิจแปรรูปและผลิตผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์และอาหาร
       บริษัทได้จำแนกธุรกิจตามประเภทของสินค้าออกเป็น 3 ธุรกิจหลัก คือ 1) ธุรกิจอาหารสัตว์ (Feed) 2) ธุรกิจการเลี้ยงสัตว์ (Farm) ได้แก่ การเพาะพันธุ์สัตว์ การเลี้ยงสัตว์เพื่อการค้า และการแปรรูปเนื้อสัตว์พื้นฐาน และ 3) ธุรกิจอาหาร (Food) ได้แก่ การผลิต สินค้าเนื้อสัตว์กึ่งปรุงสุกและปรุงสุก และการผลิตผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทาน
       ธุรกิจของบริษัทแบ่งออกเป็น 2 สายธุรกิจหลัก คือ 1) สายธุรกิจสัตว์บก (Livestock Business Line) ครอบคลุมประเภทสัตว์ หลัก ได้แก่ ไก่เนื้อ ไก่ไข่ สุกร และเป็ด และ2) สายธุรกิจสัตว์น้ำ (Aquatic Business Line) ครอบคลประเภทสัตว์หลัก ได้แก่ กุ้งและปลา ซึ่งทั้ง 2 ธุรกิจนี้มีการดำเนินงานในลักษณะครบวงจร




           บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) (บริษัทหรือ ซีพีเอฟ”) เป็นหนึ่งในบริษัทจดทะเบียนซึ่งเป็นผู้นำในธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารที่มีการดำเนินธุรกิจในลักษณะครบวงจร บริษัทมีการดำเนินธุรกิจใน 16 ประเทศทั่วโลก และมีการส่งออกสินค้าจากประเทศไทยไปจำหน่ายในต่างประเทศกว่า 30 ประเทศ ครอบคลุมผู้บริโภคกว่า 4 พันล้านคน การดำเนินธุรกิจของบริษัทครอบคลุมประเภทของสัตว์บกและสัตว์น้ำ โดยมีประเภทสัตว์หลัก ได้แก่ สุกร ไก่เนื้อ ไก่ไข่ เป็ด กุ้ง และ ปลา โดยกระบวนการผลิตครบวงจรนั้น เริ่มตั้งแต่ การผลิตอาหารสัตว์ การเพาะพันธุ์สัตว์ การเลี้ยงสัตว์เพื่อการค้า การแปรรูปเนื้อสัตว์ขั้นพื้นฐาน การผลิตสินค้าเนื้อสัตว์แปรรูปกึ่งปรุงสุกและปรุงสุก การผลิตผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปหรือผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทานรวมถึงการดำเนินธุรกิจช่องทางการขายผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์และอาหารในรูปแบบร้านค้าปลีกและร้านอาหาร




          ผลิตภัณฑ์หลักที่สำคัญของธุรกิจอาหารสัตว์ ได้แก่ อาหารสุกร อาหารไก่ อาหารเป็ด อาหารกุ้ง และอาหารปลาทั้งในรูปหัวอาหารและอาหารสำเร็จรูปชนิดผงและชนิดเม็ด บริษัทตระหนักดีว่า คุณภาพการผลิตที่มีประสิทธิภาพด้วยการก้าวทันเทคโนโลยีเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้อาหารสัตว์ของบริษัทเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาอุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์ ทั้งในประเทศไทยและประเทศต่างๆ ที่บริษัทเข้าไปลงทุน
       บริษัทให้ความสำคัญตั้งแต่จุดเริ่มต้นของการผลิต ด้วยการคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพดี ผ่านระบบการวิเคราะห์และตรวจสอบคุณภาพวัตถุดิบโดยห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล ISO/IEC 17025 ซึ่งข้อมูลจากห้องปฏิบัติการกลางและห้องปฏิบัติการสาขาทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศยังเชื่อมโยงถึงกัน เพื่อสนับสนุนข้อมูลด้านคุณค่าทางโภชนาการและความปลอดภัยของวัตถุดิบสำหรับเป็นฐานข้อมูลสำคัญในการคำนวณสูตรอาหารสัตว์ที่เหมาะสมตามความต้องการของสัตว์แต่ละชนิด สายพันธุ์ และวัย รวมถึงความปลอดภัยต่อผู้บริโภค
      บริษัทได้ใช้ระบบควบคุมการผลิตอาหารสัตว์ด้วยคอมพิวเตอร์มานานกว่า 40 ปี และประยุกต์ใช้ระบบมาตรฐานสากลในกระบวนการผลิตอาหารสัตว์ ซึ่งได้รับการรับรองจากหน่วยงานอิสระภายนอก (3rd Party) มาอย่างต่อเนื่อง อาทิ ระบบบริหารงานคุณภาพ (ISO 9001) หลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิตอาหาร (Good Manufacturing Practice : GMP) ระบบวิเคราะห์อันตรายและควบคุมจุดวิกฤต (Hazard Analysis and Critical Control Point : HACCP) Best Aquaculture Practice (BAP), International Fishmeal and Fishoil Organization’s Responsible Supply Chain of Custody (IFFO RS CoC) จากองค์การปลาป่นสากล, และมาตรฐาน QS เป็นต้น เพื่อคุณภาพที่สม่ำเสมอและความปลอดภัยสูงสุดต่อสัตว์และผู้บริโภค นอกจากนี้ ยังนำหุ่นยนต์ซึ่งออกแบบและพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษโดยทีมวิศวกรภายใน มาใช้ในระบบการผลิตของบริษัทโดยเฉพาะ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานอีกด้วย
       นอกเหนือจากคุณภาพของวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ บริษัทยังมุ่งมั่น จัดหาวัตถุดิบอย่างยั่งยืนกล่าวคือ วัตถุดิบหลักที่ใช้ในการผลิตอาหารสัตว์จะมาจากแหล่งที่มีกระบวนการผลิตที่มีความรับผิดชอบทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและแรงงานตามนโยบายการจัดหาอย่างยั่งยืนและแนวปฏิบัติสำหรับคู่ค้าธุรกิจของบริษัทที่ได้มีการดำเนินการในประเทศไทย ควบคู่ไปกับการดำเนินนโยบายการจัดซื้อวัตถุดิบจากแหล่งผลิตในประเทศเป็นลำดับแรกโดยเฉพาะในบริเวณท้องที่ที่โรงงานอาหารสัตว์ตั้งอยู่เพื่อเป็นการสนับสนุนเกษตรกรท้องถิ่นและช่วยลดระยะทางและพลังงานที่ใช้สำหรับการขนส่งในกรณีที่วัตถุดิบที่ปริมาณการจัดซื้อในประเทศไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ในการผลิตเนื่องจากปริมาณผลผลิตไม่เพียงพอหรือคุณภาพไม่ได้ตามมาตรฐานจึงจะมีการนำเข้าจากต่างประเทศ
         นอกจากนี้ บริษัทได้มีการดำเนินการจัดหาวัตถุดิบทดแทน เพื่อกระจายความหลากหลายของวัตถุดิบ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการขาดแคลนวัตถุดิบบางชนิดในบางช่วงเวลา อันหมายถึงการรักษาความสามารถและเพิ่มศักยภาพในการผลิตของบริษัทและ คู่ค้าอย่างมีประสิทธิภาพและต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน บริษัทก็ได้ให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพอาหารสัตว์ที่จะต้องสอดคล้องกับความต้องการของสัตว์และระบบการเลี้ยง ก่อนพัฒนาหรือปรับปรุงสูตรอาหารที่สนับสนุนการเจริญเติบโตของสัตว์แต่ละชนิด สายพันธุ์ และวัย ซึ่งจะครอบคลุมทั้งในเรื่องความต้องการสารอาหารของสัตว์ วัตถุดิบ สารอาหารเสริม ตลอดจนนวัตกรรมอาหารสัตว์ที่สนองตอบโจทย์ความต้องการ แนวโน้ม และการเปลี่ยนแปลงของโลก เพื่อมีส่วนร่วมในการสร้างความมั่นคงทางอาหารในระยะยาว และด้วยบริษัทมีความจำเป็นต้องใช้พลังงานความร้อนในกระบวนการผลิตอาหารสัตว์ โดยแหล่งพลังงานความร้อนมาจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลจากถ่านหินและน้ำมันเตาเป็นหลัก ซึ่งมีกระบวนการเผาไหม้เชื้อเพลิงส่งผลต่อปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โรงงานผลิตอาหารสัตว์ของบริษัทจึงได้ติดตั้งอุปกรณ์หม้อไอน้ำให้สามารถใช้เชื้อเพลิงชีวมวล (Biomass) อาทิ แกลบ ซังข้าวโพด กะลาปาล์ม ฟืน แทนเชื้อเพลิงฟอสซิล เพื่อบรรเทาผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกันก็ได้ ยังติดตั้งเครื่องกรองฝุ่นและนำเทคโนโลยี Ozone เข้ามาใช้ เพื่อป้องกันฝุ่นและลดกลิ่นที่เกิดจากกระบวนการผลิตมิให้ฟุ้งกระจายออกไปรบกวนชุมชนที่อาศัยอยู่บริเวณรอบสถานประกอบการด้วย
ช่องทางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัท
            เพื่อเพิ่มความสะดวกของผู้บริโภคในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ของบริษัท บริษัทได้ขยายการลงทุนในช่องทางจัดจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง โดยช่องทางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัทสามารถแบ่งออกเป็น ประเภท ดังนี้


1. ธุรกิจห้าดาว   เป็นการบริหารจัดการจุดขายห้าดาวในรูปแบบแฟรนไชส์ เป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพ ให้กับผู้ที่สนใจประกอบธุรกิจของตนเอง โดยมีผลิตภัณฑ์ภายใต้จุดขายห้าดาวทั้งหมด ประเภท ได้แก่ จุดขายไก่ย่าง จุดขายไก่ทอด จุดขายข้าวมันไก่ จุดขายบะหมี่เกี๊ยวกุ้ง จุดขายเรดดี้มีล และจุดขายไส้กรอก นอกจากนี้ บริษัทยังได้ขยายธุรกิจห้าดาวไปยังประเทศเวียดนาม อินเดีย ลาว และกัมพูชา


2. ร้านอาหารเชสเตอร์   เป็นธุรกิจร้านอาหารจานด่วน ดำเนินการโดยบริษัทและในรูปแบบแฟรนไชส์ โดยมีทั้งร้านที่บริษัทดำเนินการเอง และดำเนินการในรูปแบบแฟรนไชส์


3. ร้านอาหารซีพี คิทเช่น   เป็นร้านอาหารบริการด่วน (Fast Serve) ภายใต้แนวคิดอาหารสดใหม่ อิ่มอร่อย ราคายุติธรรม (Fresh, Full and Fair)


4. ร้านค้าปลีกซีพี เฟรชมาร์ท   เป็นร้านค้าปลีกที่เน้นผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการประกอบอาหาร จำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารสด อาหารปรุงสุกพร้อมรับประทาน และอาหารแห้ง ภายใต้มาตรฐานสินค้าของแบรนด์ซีพี แบรนด์ซีพี เฟรชมาร์ท และแบรนด์ชั้นนำมาจัดจำหน่าย เป็นศูนย์รวมสินค้าอาหารที่สด สะอาด ปลอดภัยและมีคุณภาพดี ในปี 2559 ซีพี เฟรชมาร์ท ได้มีร้านรูปแบบใหม่เรียกว่า Compact Super โดยเน้นการสร้างความสะดวกสบายในการเข้าถึงอาหารดีมีคุณภาพราคายุติธรรมให้แก่ทุกชุมชน ซึ่งส่งผลให้คนไทยเข้าถึงอาหารที่มีความหลากหลายและส่งเสริมสุขภาพคนไทย


5. ศูนย์อาหารซีพี ฟู้ดเวิลด์   เป็นศูนย์อาหารที่มีความหลากหลายของร้านอาหาร ทั้งที่เป็นร้านอาหารของกลุ่มบริษัทเองและร้านอาหารจากภายนอก โดยซีพี ฟู้ดเวิลด์ ก้าวขึ้นสู่การเป็นธุรกิจชั้นนำระดับแนวหน้าของกลุ่มธุรกิจศูนย์อาหาร ด้วยการเป็นศูนย์รวมของร้านอาหารคุณภาพ ที่เน้นเรื่องรสชาติและการบริการอย่างมืออาชีพ ใส่ใจในความต้องการของผู้บริโภค เข้าถึงกลุ่มลูกค้าทุกเพศทุกวัย
นอกจากจุดเด่นในด้านอาหารแล้ว ศูนย์อาหาร ซีพี ฟู้ดเวิลด์ ยังเป็นศูนย์อาหารที่ได้มาตรฐานในด้านความสะอาดของอุปกรณ์ รวมทั้งสุขอนามัยของพนักงานผู้ให้บริการ เป็นการรวบรวมคุณภาพทุกๆ ด้าน ภายใต้บรรยากาศที่ทันสมัย เพื่อให้เป็นหนึ่งในศูนย์อาหารของคนรุ่นใหม่ ปัจจุบันศูนย์อาหาร ซีพี ฟู้ดเวิลด์ ตั้งอยู่ที่มหาวิทยาลัยและโรงพยาบาล นอกจากนี้ ซีพี ฟู้ดเวิลด์ ยังได้มีการขยายธุรกิจในช่องทางการบริการอาหารจัดเลี้ยงเต็มรูปแบบ โดยแบ่งเป็น รูปแบบ ดังนี้
• บริการอาหารจัดเลี้ยง โดยให้บริการทางด้านอาหารทั้ง Meal Box และ Snack Box รวมถึงการจัดเลี้ยงแบบครบวงจร
• บริการอาหารสำหรับผู้ป่วย โดยมีแผนกโภชนาการ ภายใต้การกำกับดูแลของเชฟมืออาชีพ เข้ามาดูแลในทุกเมนูอาหาร เพื่อให้ได้อาหารที่มีคุณภาพ ปลอดภัย รสชาติอร่อย การทำงานทุกขั้นตอนเป็นไปตามมาตรฐานสากลระดับโลก อย่าง JCI และ HACCP เพื่อมุ่งสู่การเป็นทีมงานบริการมืออาชีพในโรงพยาบาล


6.ตู้เย็นชุมชน เป็นการสนับสนุนให้ผู้บริโภคในชุมชนได้เข้าถึงแหล่งอาหารที่สดสะอาด ปลอดภัยและมีคุณภาพอีกทั้งเป็นการส่งเสริมอาชีพและเพิ่มรายได้ให้ผู้ประกอบธุรกิจโดยปี 2559 บริษัทได้ริเริ่มโครงการตู้หมูชุมชนในประเทศไทย เพื่อให้ชุมชนเข้าถึงผลิตภัณฑ์เนื้อหมูที่สด สะอาด ปลอดภัย และมีคุณภาพ


 การสื่อสารและโทรคมนาคม
บริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มีบริษัทในเครือดังนี้
1. ทรูออนไลน์
2. ทรูมูฟเอช
3. ทรูวิชั่น

อุตสาหกรรมด้านยานยนต์

ผลิตรถยนต์



ในภาพอาจจะมี หนึ่งคนขึ้นไป, ผู้คนกำลังยืน และสถานที่ในร่มในภาพอาจจะมี หนึ่งคนขึ้นไป, ผู้คนกำลังยืน และสถานที่ในร่ม
ในภาพอาจจะมี 2 คน, ผู้คนกำลังยืน และสถานที่ในร่ม


อ้างอิง https://www.cpfworldwide.com/th/about










ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม